หนังโปรดของข้าพเจ้า
20 หนังเหงา ๆ ยิ่งดูยิ่งเหงา
เอาใจคนชอบดูหนังเหงา ๆ ด้วยลิสต์ 20 หนังเหงายอดเยี่ยมของข้าพเจ้า เอาให้ดูแล้วเหงาตายกันไปข้างเลยครับ
ใครหาหนังหว่อง หนังโซเฟียมีมาแน่นอนครับ จะว่าไปหนังหว่องกาไวนี่ดูแล้วเหงาทุกเรื่องเลยนะครับแหม่ นึกถึงความเหงานึกถึงหว่องได้เลย อันดับเท่าไรไปลุ้นเอาเอง แนะนำสุด ๆ คือ Mary and Max บอกเลยว่าเหงายิ่งกว่าเหงา
ใครมีหนังที่ดูแล้วเหงายิ่งกว่านี้ หรือคิดว่าไม่ค่อยมีคนรู้จักก็แนะนำเข้ามาได้เลยครับ แบ่งปันแลกเปลี่ยนหนังกันครับ
ป.ล. อยากดูรักน้อยนิดมหาศาล เห็นเขาว่าดูแล้วเหงามาก
20 | Drive (2011)
'นักขับนิรนาม' (Ryan Gosling) ในบทฉากหน้าเป็นสตั๊นท์แมน, ช่างเครื่องยนต์ แต่ฉากหลังเขาคือนักขับรถพาอาชญากรรมหลบหนี จนโชคชะตาเล่นตลกเมื่อเขาตกหลุมรัก 'ไอรีน' (Carey Mulligan) เพื่อนบ้านสุดสวยลูกหนึ่งแต่แล้วเขาก็พบว่าเธอมีสามีแล้ว สถานการณ์เริ่มมีปัญหาเมื่อเขายื่นมือไปช่วยเหลือครอบครัวของหญิงสาวอันเป็นที่รักของเขา
หากตัดแอ็คชั่นดิบเถื่อนออกไปเราจะพบว่า Drive มันพูดถึงความเหงาของชายคนหนึ่งที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว จนเมื่อมีความรักก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าเธอมีสามีแล้ว ความเดียวดายของกอสลิ่งเนี่ยแหละที่ทำให้ตัวละครนี้โคตรมีเสน่ห์เลย
19 | The Lives of Others (2006)
จะเป็นอย่างไรเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลับได้รับคำสั่งให้สอดแนมดักฟังนักเขียนกับแฟนสาวของเขา แต่แล้วกลับพบว่าตัวเองเริ่มหมกหมุ่นเข้าอกเข้าใจผู้ถูกสอดแนมของเขา
ความน่าสนใจคือทั้งตำรวจและนักเขียนเนี่ยต่างคนต่างเหงาและกลัวการอยู่คนเดียว ความผูกพันผ่านการสอดแนมจึงเป็นอะไรที่เราดูแล้วเห็นความเปล่าเปลี่ยวของเขาได้อย่างชัดเจน
18 | Let the Right One In (2008)
เรื่องราวของเด็กที่ถูกเพื่อนรังแกจนมีความคิดอยากจะแก้แค้นกับเด็กสาวประหลาดที่ไม่สามารถโดนแดดและกินอาหารเหมือนคนปกติได้ โครงหลักของเรื่องคือหนังดราม่าที่เน้นความเหงาของตัวละครเด็กสองคน โดยมีแวมไพร์เป็นแค่ส่วนประกอบเพื่อสื่อถึงความเหงาของเด็กทั้งสองแค่นั้น
และมันก็ทำให้เราโคตรเหงาจริง ๆ
17 | The Wrestler (2008)
บนเวทีมวยปล้ำ 'แรนดี้' (Mickey Rourke) คือนักมวยปล้ำชื่อดังที่คนดูต้องการ แต่ในสังคมจริงนอกเวทีกลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาคือคนธรรมดาเริ่มอายุมากขึ้นที่ต้องพบเจอกับโรคภัยเล่นงานจนทำให้สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยให้ขึ้นเวทีมวยปล้ำ และนอกเวทีเขาก็เริ่มตกอับต้องขายผลงานเก่า ๆ ทำงานพนักงานในร้านเพื่อประทังชีวิต ความรักที่เขามีต่อสาวระบำเปลือยก็ดูไม่ก้าวหน้าไปกว่ามิตรภาพธรรมดา ครั้นจะไปหาลูกสาวก็ถูกปฏิเสธจากกรรมเก่าที่เขาทำต่อเธอ
นี่จึงเป็นหนังที่ถ่ายทอดความเหงาของชายคนหนึ่งที่ต้องการเพียงหลักยึดเหนี่ยวในวันที่เริ่มไร้ค่า มันจึงเป็นความเดียวดายที่ดูแล้วรู้สึกสงสารเขาจับจิต
16 | Perfect Number (2012)
เมื่อหญิงสาวพลาดพลั้งฆ่าอดีตสามีเก่าที่ชอบใช้ความรุนแรง แต่หลานสาววัยเรียนของเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ช่วยเหลือการฆาตกรรม ทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากหนุ่มขี้อายข้างห้องที่ยื่นมือมาช่วยให้ทั้งสองรอดพ้นจากความผิด
ชอบบรรยากาศเหงา ๆ ของหนัง คือตัวละครมันก็เปลี่ยวเหงามากพอแล้วล่ะ แต่หนังยังเสริมให้ทั้งเรื่องไม่มีตัวประกอบราวกับทั้งโลกนี้มีเพียงแค่คนสองคน รับรองว่าหนุ่มเนิร์ดกับ Girl next door จะทำให้คุณเหงาจับใจแน่นอน
15 | Taxi Driver (1976)
หนังที่นำเสนอมุมอาชญากรรมผสมกับความเหงาของ 'ทราวิส' (Robert De Niro) อดีตทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนามที่กลายมาเป็นคนขับแท็กซี่กลางคืน เขาโดดเดี่ยวและเฝ้าคิดถึงแต่จะทำอย่างไรให้นิวยอร์คหลุดพ้นจากความเสื่อมโทรม นั่นจึงเป็นที่มาของการพยายามช่วยเหลือ 'ไอริส' (Jodie Foster) โสเภณีเด็กให้รอดพ้นจากแมงดา
ถ้าจะหาตัวละครและบรรยากาศกลิ่นอายความเหงาของนิวยอร์คยามค่ำคืน เราคงต้องให้คุณหา Taxi Driver มาชมให้ได้แล้วล่ะ
14 | Moon (2009)
หนังไซไฟอะไรมีตัวละครตัวเดียวพูดกับหุ่นยนต์ทั้งเรื่อง และให้บรรยากาศของนักบินอวกาศที่ดูแล้วเหงาจับใจมาก ๆ
ไม่อยากเล่าเยอะ แค่บอกว่าเหงายิ่งกว่าต้นเรื่องของ Wall-E ก่อนเจออีฟว่าเสียอีก
13 | Solaris (2002)
'คริส เคลวิน' (George Clooney) เป็นนักจิตวิทยาที่มีปมความรู้สึกผิดในใจว่าเขาเป็นต้นเหตุให้ภรรยาฆ่าตัวตาย เมื่อเขาได้เดินทางไปยังดาวโซลาริส ซึ่งดาวดวงนี้สามารถสร้างสสารจำลองความทรงจำของลูกเรือแต่ละคนขึ้นมาได้ แน่นอนว่าความทรงจำของป๋าจอร์จก็คือภรรยาของเขา ป๋าจอร์จต้องการโอกาสแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตด้วยการเริ่มต้นความสัมพันธ์กับสสารจำลองความทรงจำ ในขณะที่สสารจำลองก็เริ่มสงสัยการมีอยู่ของตัวตนตัวเอง
ช่วงที่หนังเล่นกับความทรงจำป๋าจอร์จเป็นอะไรที่เราดูแล้วรู้สึกโคตรเหงาเลย มันเหมือนแทนค่าการสูญเสียด้วยการสร้างเพื่อนในจินตนาการขึ้นมาชดเชยการจากไปของคนที่เรารัก ซึ่งมันทำให้เราซึมตามเลยนะ
12 | Up in the Air (2009)
'ไรอัน บิงแฮม' (George Clooney) เป็นคนรักการเดินทาง ไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง คิดว่าครอบครัวและความสัมพันธ์ที่จริงจังคือภาระที่ต้องแบก เขาจึงเลือกไม่ผูกมัดตัวเองกับใคร ไปไหนก็หาสาวที่นั่นในลักษณะความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราว จนกระทั่งเขาได้มาเจอ 'อเล็กซ์' (Vera Farmiga) ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกอยากเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่จริงจังด้วย
จะบอกว่าคนที่ทำตัวแบบป๋าจอร์จคือร่อนเร่ไม่ผูกมัดไปทั่วแท้จริงแล้วตัวเองน่ะโคตรเหงาเลย มันมีฉากนึงที่สะท้อนภาพความเหงาเคว้งของป๋าจอร์จได้สุด ๆ ก็คือตอนตัวเองมีปัญหาแต่ไม่มีใครข้างกาย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งหนังที่บอกเลยว่าดูแล้วเหงา ยิ่งใครมีประสบการณ์ร่วมจะยิ่งอิน
11 | Leon: The Professional (1994)
'ลีออง' (Jean Reno) มือปืนสุดโหดที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่คนเดียวเรียบง่ายซื่อ ๆ จนวันหนึ่งได้เจอ 'มาธิลดา' (Natalie Portman) เด็กหญิงวัย 12 ขวบลูกพ่อค้ายาเพื่อนร่วมแฟลตเดียวกับเขา ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเขาโดยสิ้นเชิง
หากใครหาหนังที่ดูแล้วรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายเสียเหลือเกินก็ต้องหามือปืนคนนี้มาดูแล้วครับ (และแนะนำ Le Samourai หนังปี 1967 ให้ดูควบคู่กันให้เหงาเดียวดายทวีคูณเข้าไปอีก)
10 | Chungking Express (1994)
นายตำรวจรหัส 223 (Takeshi Kaneshiro) พึ่งถูกแฟนบอกเลิก ช่วงเวลาความเหงาต่อจากนี้เขาเลือกที่จะหาใครสักคนเพื่อมาเที่ยวกินดื่มหรือพูดคุยด้วย ฉากที่ชอบที่สุดสำหรับผมคือฉากโทรศัพท์เพื่อจะชวนใครสักคนไปดื่มด้วยกัน โทรหาคนที่ไม่ได้ติดต่อกัน 5 ปี โทรหาเพื่อนสมัยประถมคือมันแสดงถึงความเหงาเปล่าเปลี่ยวสุด ๆ แล้วครับ
ส่วนอีกนายเป็นตำรวจรหัส 663 (Tony Leung Chiu Wai) พึ่งโดนแฟนที่เป็นแอร์โฮสเตสบอกเลิกเช่นกัน เขายังคงใช้ชีวิตประจำวันปกติ เพียงแต่เมื่ออยู่คนเดียว ความเหงาทำให้เขาคุยกับสิ่งของในบ้าน โดยกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งของเขาคือการแวะซื้อของกินที่ร้านอาหารเล็ก ๆ
ดูให้เหงาตายกันไปข้างเลยครับ
9 | The Virgin Suicides (1999)
หนังสร้างจากนิยายที่พูดถึงครอบครัวในยุค 70 ซึ่งครอบครัวลิสบอนมีลูกสาว 5 คน เข้มงวดกับลูกสาวมากและไม่เปิดโอกาสให้ลูกสาวได้พบปะเพื่อนผู้ชาย ไม่ได้เข้าสังคม เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ฆ่าตัวตายของลูกสาวคนเล็กสุดวัย 13 ปี และเสาหลักครอบครัวลิสบอนก็หลอกตัวเองว่าเป็นอุบัติเหตุ สิ่งต่าง ๆ ที่ตัวหนังแสดงให้เห็นจะค่อย ๆ ถูกปอกเปลือกผ่านสายตาแก๊งเด็กผู้ชายบ้านตรงข้ามที่ปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ในมุมมองของพวกเขาผ่านสมุดบันทึกและสิ่งที่เขาเห็นผสมจินตนาการ
ความน่าสนใจของ The Virgin Suicides คือการที่หนังไม่ได้แสดงปัญหาหรือความคิดของ 4 สาวที่เหลือตรง ๆ แต่เล่าผ่านตัวละครกลุ่มเด็กผู้ชายที่เฝ้ามองมาตลอด ทำให้มันเปิดกว้างให้คนดูเข้าไปสัมผัสความเหงาได้แม้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ
8 | The Painted Veil (2006)
หนังเล่าเรื่องการแต่งงานที่เกิดจากความรักฝ่ายเดียวของ 'วอลเตอร์' (Edward Norton) กับ 'คิตตี้' (Naomi Watts) หญิงสาวที่ยอมแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงเพราะต้องการหนีห่างจากแม่ หลังจากคิตตี้เดินทางตามสามีไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ ที่นั่นเธอได้คบชู้กับผู้ชายคนหนึ่ง จนเมื่อนอร์ตันรู้ความจริง เขาได้ยื่นข้อเสนอระหว่างฟ้องหย่าให้เป็นเรื่องอื้อฉาวหรือเธอจะยินยอมเดินทางไปชนบทกับเขาในฐานะภรรยาที่ตามไปอยู่เคียงข้างสามีที่เป็นอาสาสมัครเป็นหมอรักษาการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค
บทหนังเรื่องนี้มันพาอารมณ์เราจมดิ่งไปกับความเจ็บปวดของทั้งคู่ได้ดีมาก ๆ ครับ ผมชอบตรงนี้แหละ ใครที่ชอบหนังแนวบิ๊วอารมณ์เหงา ๆ เคว้ง ๆ เจ็บร้าวในใจนี่ห้ามพลาดเลยครับ
7 | Days of Being Wild (1990)
หนังพาเราย้อนไปยังปี 1960 จุดเริ่มต้นจากผู้ชายคนหนึ่งนามว่ายอร์ค (Leslie Cheung) เขาถูกแม่แท้ ๆ ทิ้งตั้งแต่เด็กให้อยู่กับแม่เลี้ยงที่เป็นอดีตโสเภณี หลังจากเขารู้ความจริงว่าคนที่เลี้ยงดูไม่ใช่แม่แท้ ๆ ก็ทำให้เขาเกิดปมกับผู้หญิง เขาหว่านเสน่ห์ใส่ผู้หญิงจนเธอหลงรัก แต่เมื่อเธอเริ่มพูดถึงความสัมพันธ์ที่มั่นคงเขาก็ทิ้งเธอทันทีอย่างไม่มีเยื่อใย ผู้หญิงสองคนที่เข้ามาเกี่ยวกับข้องกับเขาคือโซล่ายจัน (Maggie Cheung) และเลียงฟังอิง (Carina Lau) ซึ่งทั้งสองคนก็ส่งต่ออารมณ์ความเจ็บปวดไปยังชายอีกสองคนที่หวังดีกับเธอ
หนังสร้างตัวละครให้มีปมในใจ ใส่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครและถ่ายทอดความรู้สึกจากคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่ง ชนิดที่ทำให้คนดูอย่างผมอินไปกับเรื่องราวของทุกตัวละคร ในมุมหนึ่งเราก็เห็นความเหงาไปถึงความรักจนเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดและการเยียวยา
6 | Lars and the Real Girl (2007)
หนังของชายแสนดีซึ่งเป็นผู้ชายธรรมดาที่ไม่กล้าเข้าสังคม จึงตัดสินใจซื้อตุ๊กตายาง และปฏิบัติต่อตุ๊กตายางเหมือนว่ามีตัวตนจริง ๆ
ดูพล็อตก็รู้สึกเหงาแล้ว ยิ่งถ้าไปดูหนังจะยิ่งเหงา
5 | Her (2013)
'ธีโอดอร์' (Joaquin Phoenix) นักเขียนหนุ่มขี้เหงาช้ำรัก เขาเพิ่งแยกกันอยู่กับภรรยาและยังทำใจไม่ได้ที่จะเซ็นใบหย่า จนกระทั่งเขาได้รู้จักและตกหลุมรักกับปัญญาประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า 'ซาแมนธ่า' (ให้เสียงพากย์โดย Scarlett Johansson)
Her เป็นหนังที่บอกเล่าความเหงายามอยู่คนเดียวได้ดีมาก ๆ ยิ่งถ้าเราไม่มีอะไรจะทำมันยิ่งเหงาและการหาทางออกด้วยการตกหลุมรักอะไรที่จับต้องไม่ได้มันยิ่งสะท้อนถึงภาพความเหงาได้อย่างร้ายกาจ
4 | Mary and Max (2009)
อนิเมชั่นดินน้ำมันที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของคนที่ส่งจดหมายคุยกันกว่า 20 ปี นำมาดัดแปลงเป็นการส่งจดหมายพูดคุยกันระหว่างชายผู้ปัญหาด้านการเข้าสังคม กับเด็กหญิงแสนเหงาที่มีปัญหาครอบครัว
เห็นพล็อตคนแปลกแยกจากสังคมขนาดนี้ก็คงพอจะบอกถึงระดับความเหงาได้แล้วล่ะ บอกเลยว่าทั้งเหงาทั้งหดหู่ดูแล้วมีอันต้องโศกเศร้าเหงาตายกันไปข้าง
3 | Lost in Translation (2003)
'บ็อบ แฮริส' (Bill Murray) นักแสดงขาลงวัยกลางคน กำลังประสบปัญหาเบื่อหน่ายภรรยา แล้วยังต้องมารับงานถ่ายโฆษณาที่เขารู้สึกอึดอัดในญี่ปุ่นอีก
'ชาล็อตต์' (Scarlett Johansson) นักศึกษาพึ่งจบปริญญาด้านปรัชญา ติดตามสามีที่เป็นช่างภาพมาทำงานที่ญี่ปุ่น ด้วยความที่สามีต้องทำงานทั้งวันจึงไม่มีเวลาให้กับเธอ ตลอดเวลาที่เธออยู่คนเดียวจึงรู้สึกเหงาในดินแดนที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาตัวเองกับคนอื่นได้
ทั้ง 'บ็อบ' และ 'ชาล็อตต์' จึงมีความเหมือนกันคือ 'รู้สึกตัวคนเดียว' เบื่อหน่ายตัวเองในญี่ปุ่น จนเมื่อทั้งสองคนเริ่มต้นทักกัน เห็นกันบ่อยขึ้น ผูกมิตรกัน จึงตกลงกันออกไป 'สร้างพื้นที่ส่วนตัว' ของตัวเองเป็นเพื่อนคลายเหงาซึ่งกันและกันเท่านั้นในญี่ปุ่น
บอกเลยสั้น ๆ ว่าดูแล้วโคตรเหงาโคตรเคว้ง
2 | Leaving Las Vegas (1995)
'เบน' (Nicolas Cage กับการแสดงขั้นเทพจนได้ออสการ์ แกเหมาะกับบท loser แบบนี้มาก) นักเขียนบทภาพยนตร์สูญเสียทุกอย่างเพราะติดเหล้าอย่างหนัก เขาตั้งใจไปเมาจนตายที่ลาส เวกัส แต่ที่นั่นเองที่ทำให้เขาเกิดความสัมพันธ์ดี ๆ กับหญิงขายบริการ ทั้งคู่เหมือนเข้ามาเติมเต็มอีกฝ่าย คนหนึ่งต้องการคนรับฟัง ต้องการคนอยู่เคียงข้าง อีกคนต้องการคนที่ทำให้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องกลายเป็นคนอื่นเหมือนเวลาให้บริการชายอื่น
เห็นพล็อตหนุ่มขี้เหล้ากับสาวขายบริการ แต่บอกเลยว่าโคตรโรแมนซ์แบบเหงา ๆ หดหู่นิด ๆ แล้วผมชอบอีกอย่างคือ 'ติดเหล้า' มันก็ไม่ดี 'ขายบริการ' ก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่ทั้งสองคนไม่เคยเรียกร้องให้อีกฝ่ายเลิกทำสิ่งที่ทำอยู่ คือเหมือนยอมรับซึ่งกันและกันได้น่ะครับ แล้วเดี๋ยวพอถึงจุดหนึ่งก็ต้องเลิกสิ่งไม่ดีด้วยตัวเองไม่ใช่เลิกเพราะโดนร้องขอ
ใครชอบหนังรักเหงา ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด
1 | In the Mood for Love (2000)
ขึ้นชื่อว่า 'หว่อง กา ไว' ลายเซ็นของเขาคงหนีไม่พ้นความเหงา และนี่คือหนังที่ผมยกให้เป็นหนังโรแมนติกที่ดูแล้วโคตรเหงาที่สุด
เรื่องราวของคู่สามีภรรยาเพื่อนบ้านกันต่างสงสัยว่าคนรักของตัวเองจะแอบคบชู้กัน จึงเกิดเป็นที่ว่างให้ทั้งสองคนต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวก่อนที่จะมาอยู่ด้วยกันส่วนตัวแบบต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ พร้อมข้อตกลงที่จะไม่ทำผิดเหมือนเช่นเดียวกับคู่ชีวิตของตัวเอง
ใครจะหาหนังรักที่โคตรเหงายังไงก็ต้อง In the Mood for Love ครับ