รวมหนังปล้นยอดเยี่ยม

20 | Ocean's Eleven (2001)

ถ้าว่ากันตามตรงแล้วแผนการปล้นในหนังมันมีจุดบอดจุดโหว่ที่อาศัยการเขียนบทช่วยเยอะเหมือนกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ ใครจะไปสนใจในเมื่อผู้กำกับเล่าออกมาได้สนุก นักแสดงดัง ๆ มารวมแผนปล้นเหนือชั้น นั่นจึงทำให้ Ocean's Eleven ปล้นต่อกันเป็นไตรภาค แถมส่งต่ออิทธิพลไปถึงหนังเกาหลีเรื่อง The Thieves อีกต่างหาก

19 | The Italian Job (1969) (2003)

สิ่งเดียวที่ชอบ The Italian Job ต้นฉบับก็คือ เอ็งคิดได้ไงว่าจะใช้จุดเด่นของขนาดรถมินิ คูเปอร์ในการปล้นและหลบหนี! ซึ่งนั่นทำให้ฉากปล้นมันกลายเป็นสุดยอดของความคลาสสิก ยิ่งฉบับ remake ที่ขับรถเข้าไปในที่แคบ ๆ ยิ่งรู้สึกถึงความเจ๋งของแผนการปล้นตั้งแต่ต้นฉบับจนถึงฉบับปัจจุบัน

18 | Inside Man (2006)

ใครกำลังมองหาหนังปล้นธนาคารแผนการล้ำ ๆ แต่ทำออกมาได้น่าเชื่อถือก็ต้องเรื่องนี้เลยครับ โจรปล้นธนาคารพร้อมจับตัวประกันขังไว้ในตึก ท่ามกลางสถานการณ์โดนตำรวจล้อมปิดตายแต่พวกเขาก็กลับไม่เร่งรีบที่จะหนีออกไป เป็นหนังปล้นธนาคารยุคใหม่ที่ต้องซูฮกในความยอดเยี่ยมเลยครับ

17 | The Bank Job (2008)

หนังปล้นธนาคารที่มีตัวละครหลายกลุ่มมาชุลมุนกันตั้งแต่นายกรัฐมนตรี, ราชวงศ์, MI6, แก๊งโจร, ตำรวจเลว, ตำรวจดี, โสเภณี, ผู้ก่อการร้าย, รวมถึงนายธนาคาร ที่มันน่าสนใจคือ หนังสร้างจากเรื่องจริงของการปล้นธนาคารที่เจอความลับของราชวงศ์อังกฤษสมัยนั้น

16 | Ronin (1998)

เมื่อ 'แซม' (Robert De Niro) อดีตทหารได้รับการว่าจ้างให้มาร่วมทีมจารกรรมกระเป๋าลึกลับใบหนึ่ง แต่แล้วพวกเขาก็พบว่ามีหนอนบ่อนไส้ที่ต้องการครอบครองกระเป๋าดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว อีกหนึ่งหนังวางแผนปล้นผสมแอ็คชั่นขับรถไล่ล่าสุดมันที่คอหนังปล้นไม่ควรพลาด

15 | A Fish Called Wanda (1988)

ใครชอบ Snatch ชอบ Lock Stock แล้วยังไม่เคยดู A Fish Called Wanda นี่ถือว่าพลาดมาก หนังเริ่มต้นด้วยคดีร่วมกันปล้นเพชรของกลุ่ม 4 คนประกอบด้วย 'จอร์จ' (Tom Georgeson) หัวหน้าแก๊ง, 'วานด้า' (Jamie Lee Curtis) สาวสวยเปี่ยมเสน่ห์ที่กำลังหลอกใช้หนุ่ม ๆ ให้หลงกลแผนเธอ, 'อ๊อตโต้' (Kevin Kline) มือปืนชู้รักของวานด้าที่หลอกคนในแก๊งว่าเป็นพี่ชายของเธอ และ 'เคน' (Michael Palin) หนุ่มติดอ่าง เมื่อแผนการปล้นสำเร็จ จอร์จก็ได้แอบย้ายเพชรไปซ่อนที่อื่น ส่วนวานด้าก็จับมือกับอ๊อตโต้ห

14 | The Taking of Pelham One Two Th

พูดถึงเวอชั่นต้นฉบับ 1974 นะครับ บางครั้งหนังปล้นก็ไม่ต้องมีฉากแอ็คชั่น ไม่ต้องมีปมตัวละครดราม่าเข้มข้น ขอแค่ทำฉากปล้นให้น่าเชื่อถือก็พอแล้ว หนังเล่าถึงเหตุการณ์คนร้าย 4 คนปล้นรถไฟใต้ดินขบวน 'เพลแฮม 123' โดยมีผู้นำกลุ่มปล้นเป็นอดีตทหารรับจ้าง มีอดีตคนขับรถไฟที่ถูกไล่ออกเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ พวกเขา 4 คนปล้นรถไฟเรียกร้องเงิน 1 ล้านเหรียญภายใน 1 ชั่วโมง มิเช่นนั้นจะสังหารตัวประกัน แล้วพวกเขาจะหนีออกจากรถไฟใต้ดินซึ่งถูกล้อมไว้หมดแล้วได้อย่างไร

13 | Inception (2010)

เราอาจจะผ่านตาหนังปล้นธนาคาร ปล้นนู่นปล้นนี่สุดล้ำ แต่ Inception มันเจ๋งไปอีกขั้นด้วยการเป็นหนังปล้นผสมแนวไซไฟให้ตัวละครเข้าไปขโมยข้อมูลลับด้วยการแชร์ความฝัน แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือการที่หนังเปลี่ยนพล็อตจากการจารกรรมข้อมูลกลายเป็นการแชร์ฝันเพื่อปลูกฝังข้อมูลใหม่ ซึ่งทำให้ตัวหนังมันก้าวสู่การเป็นหนังปล้นรูปแบบใหม่ด้วยการเข้าไปเปลี่ยนความคิดของเหยื่อเลยทีเดียว

12 | Snatch. (2000)

ใครชอบหนังปล้นโกลาหลฮา ๆ ของเปลี่ยนมือไปมาจนยากจะคาดเดา ขอแนะนำ Snatch. เลยครับ ดูสนุกและฮาสุด ๆ

11 | The Score (2001)

'นิก' (Robert De Niro) มีแผนจะวางมือเขาจึงตกลงรับงานจาก 'แม็กซ์' (Marlon Brando) ในการปล้นครั้งใหญ่ที่เสี่ยงที่สุดในชีวิต โดยเขาต้องยอมละเมิดกฎส่วนตัวด้วยการร่วมมือกับ 'แจ็ค' (Edward Norton) เป็นเพื่อนร่วมงานปล้น ตัวหนังเป็นแนววางแผนปล้นแบบไม่มีแอ๊คชั่น ไม่มีความรุนแรง แล้วก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรครับ ตัวละครอย่างนิกเองก็ปล้นโดยไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้อาวุธแต่เน้นไปที่การวางแผนที่เฉียบขาดรัดกุม ส่วนแจ็คก็เริ่มงานด้วยการปลอมตัวเป็นคนเอ๋อ ๆ ไปสอดแนมหาข้อมูล

10 | Lock, Stock and Two Smoking Bar

เรียกว่าเป็นแนวปล้นแบบงูกินหางที่โคตรตลกเลย เพราะกลุ่มตัวเอกทั้ง 4 คนเนี่ยดันไม่ได้เลือกปล้นจากเหยื่อโดยตรง แต่พวกเขาปล้นซ้อนการปล้นอีกครั้งหนึ่งอันนำมาซึ่งความวุ่นวายสุดฮาอันเกิดจากปืนเจ้าปัญหากระบอกเดียวนั่นแหละ

9 | The Asphalt Jungle (1950)

'ด็อก' (Sam Jaffe) อาชญากรสุดฉลาดเพิ่งออกจากคุกพร้อมแผนการปล้นอีกครั้ง เขาต้องการเงินทุนสำหรับภารกิจนี้จึงได้ติดต่อ 'ค็อบ' (Marc Lawrence) เจ้ามือแทงม้า ก่อนจะติดต่อ 'เอมเมอริช' (Louis Calhern) ทนายความสำหรับการเปลี่ยนเพชรให้เป็นเงินสะอาด เมื่อด็อกได้เงินสำหรับภารกิจเขาจึงได้ชักชวน 'กัส' (James Whitmore) คนขับรถสำหรับหลบหนี, 'หลุยส์' (Anthony Caruso) คนเจาะตู้เซฟ, และ 'ดิ๊ก' (Sterling Hayden) นักเลงร่างใหญ่สำหรับคุ้มครองพวกเขา แต่แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อแผนปล้นร้านเ

8 | The Town (2010)

ใครจะว่ามันเหมือน Heat (1995) ขนาดไหนก็ช่างมันเถอะ เพราะ 'เบ็น แอฟเฟล็ก' ผู้กำกับเขาเป็นแฟนหนังปล้นหลายเรื่องรวมถึง Heat ของไมเคิล มานน์ด้วย เอาเป็นว่าทำออกมาแล้วดีก็พอแล้ว ซึ่ง The Town มันดีจริง ๆ สำหรับยุคที่กำลังหาหนังปล้นผสมแอ็คชั่นสมจริงดูยากเหลือเกิน The Town เล่าเรื่องของ 'ดั๊ก' (Ben Affleck) หนึ่งในโจรปล้นธนาคารที่เกิดตกหลุมรัก 'แคลร์' ผู้จัดการธนาคารที่เขาเคยจับเป็นตัวประกัน และความรักครั้งนี้ก็ทำให้เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากออกจากเมืองไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหน

7 | The Great Train Robbery (1903 Sh

หนังสั้นความยาว 12 นาทีจาก 112 ปีที่แล้ว!!! เมื่อกองโจรกลุ่มหนึ่งปล้นรถไฟแล้วหลบหนี ก่อนที่จะโดนกองทหารไล่จับกุมครับ ที่ชอบคือพล็อตเรื่องธรรมดาก็เอามาทำหนังได้สนุกดี ฉากปล้นเข้าใจง่าย แผนการทำออกมาได้สมจริง หนังปล้นรถไฟยุคต่อมาก็แนวเดียวกันนี้หมด ที่สำคัญคือคุณค่าของหนังมันเหนือกาลเวลาจริง ๆ จะบอกว่านี่คือหนัง blockbuster ของเมื่อ 112 ปีที่แล้วนะครับ ใครอยากดูก็คลิกลิ้งเลย: https://vimeo.com/28936967

6 | Reservoir Dogs (1992)

พูดถึงเฉพาะการปล้นอย่างเดียว ผมยอมรับเลยว่า 'เควนติน ทาแรนติโน่' ทำเรื่องนี้ได้ฉลาดมาก เป็นหนังเกือบ ๆ จะ single set ที่ถ่ายทำในสถานที่เดียว พูดถึงแค่การหาหนอนบ่อนไส้หลังแผนการปล้นล้มเหลว แต่มันกลับลุ้นระทึกเพราะเราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครกันแน่

5 | The Sting (1973)

บางครั้งการปล้นที่ดีที่สุดก็คือการต้มตุ๋น เมื่อ 'ฮุกเกอร์' (Robert Redford) ดันไปต้มตุ๋นเงินหนึ่งในสมุนของมาเฟียใหญ่ 'ลอนเนแกน' (Robert Shaw) โดยบังเอิญ ทำให้เพื่อนสนิทที่ร่วมตุ๋นด้วยกันถูกตามเก็บ ฮุกเกอร์ก็หนีมาหา 'กอนดอร์ฟ' (Paul Newman) แล้วร่วมกันวางแผนเพื่อเอาคืนมาเฟียใหญ่ด้วยวิธีการต้มตุ๋นครั้งใหญ่ โดยที่ฮุกเกอร์ยังต้องหนีการตามล่าจากตำรวจที่เขาดันไปตุ๋นธนบัตรปลอมอีกด้วย ถ้าถามถึงหนังออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ดูสนุกที่สุด ยังไงก็ต้อง The Sting เนี่ยแหละครับ เป็นหนัง

4 | Dog Day Afternoon (1975)

คือบางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการดูแผนการปล้นสุดล้ำสุดฉลาดอะไรนักหรอก นั่นทำให้ผมชอบ Dog Day Afternoon มาก ๆ เพราะมันคือหนึ่งในสุดยอดหนังปล้นธนาคารอีกเรื่อง มันไม่ได้ยอดเยี่ยมที่แผนการปล้นอย่างเหนือชั้น ไม่ได้มีฉากแอคชั่นเด็ด ๆ แต่มันคือหนังปล้นธนาคารที่สะท้อนปัญหาอเมริกาในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี

3 | Heat (1995)

หนังปล้นธนาคารที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งแผนการปล้นที่ฉลาดจนตำรวจตามจับไม่ทันสักครั้ง ต่อเนื่องจนถึงฉากดวลปืนกลางเมืองสมจริงที่กลายเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้

2 | The Killing (1956)

ผลงานกำกับของ 'สแตนลี่ย์ คูบริค' เมื่อกลุ่มอาชญากรกลุ่มหนึ่งวางแผนปล้นสนามม้า ความดีงามของหนังปล้นเรื่องนี้คงต้องยกให้แผนการปล้นที่กระจายความสำคัญไปยังทุกตัวละครได้อย่างดี นอกจากนี้แล้วแผนการปล้นยังน่าเชื่อถือ มีความหวือหวา มีฉากลุ้นระทึกกดดันจนหายใจไม่ทั่วท้องเพราะคนดูกำลังเอาใจช่วยอาชญากรรมกระทำการปล้นให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี

1 | Rififi (1955)

ใครมาถามหาหนังปล้นที่ดีที่สุด ผมตอบไม่ต้องคิดเลยว่า Rififi ของจูลส์ ดัสซิสเนี่ยแหละคือที่สุดในสามโลก ความยอดเยี่ยมไม่ได้อยู่แค่ฉากปล้น 30 โดยไม่มีบทสนทนาสุดคลาสสิก แต่มันเริ่มต้นจากการสืบหาข้อมูล การศึกษาระบบสัญญาณเตือนภัย การทดลองหาจุดอ่อนของกล่องสัญญาณเตือนภัย จนเมื่อพวกเขาเจอจุดอ่อนก็ลงมือวางแผนเจาะเพดานร้านเพชรเข้าไปโดยไม่ให้สัญญาณเตือนภัยดัง มุกใช้ร่มกางรองเศษหินแล้วไต่เพดานมันเจ๋งมากครับ!!! เป็นฉากปล้นที่ไม่มีบทสนทนา ไม่มีดนตรีมาบิ๊วอารมณ์ ขายไอเดียฉากปล้นล้วน ๆ ดูแล้วลุ