Sansho the Bailiff (1954)
- myfavfilms
- 7 เม.ย. 2557
- ยาว 1 นาที
Sansho the Bailiff (1954)
สารภาพก่อนนิดนึงว่าผมชอบคิดว่าหนังโปสเตอร์สวยมันต้องเป็นหนังดีแน่ ๆ ฮ่าๆๆ หนังหลายเรื่องนี่ผมดูแบบไม่อ่านเรื่องย่อ ไม่อ่านรีวิว ไม่สนใจคะแนนก็เพราะปกหนังสวยเนี่ยแหละ
Sansho the Bailiff บอกว่าตัวเองคือ 'นิทานพื้นบ้าน' ครับ ย้อนไปถึงประเทศญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่ 11 เจ้าเมืองอันเป็นที่รักของชาวนาถูกเนรเทศออกจากเมืองเพียงเพราะความใจดีของเขาไปขัดใจเหล่าขุนนาง เมื่อภรรยาและลูกสองคนจะออกเดินทางตามไปหาเขาก็เกิดเหตุให้ต้องพลัดพรากจากกันอีก 'ทามากิ' คนแม่ถูกจับไปเป็นโสเภณีบนเกาะ ส่วน 'ซูชิโอะ' และ 'อันจู' ลูกสองคนถูกจับไปขายเป็นทาสแก่ 'ซานโช่' เศรษฐีผู้ทำหน้าที่เก็บภาษี
เมื่อเด็กทั้งสองมาอยู่กับ 'ซานโช่' ก็ได้พบกับ 'ทาโร่' ลูกชายของซานโช่ที่มีความเมตตา แต่ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนั้น ทั้งขุนนางจอมละโมบ ทาสผู้สิ้นหวังเต็มบ้าน และพ่อที่ไม่มีความปราณี เขาเกรงกลัวว่าสักวันตัวเองจะไม่เหลือความเป็นมนุษย์ จึงได้หนีออกจากบ้านไปบวชเป็นพระในพุทธศาสนา
ส่วน 'ซูชิโอะ' เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปีเขาก็ลืมคำสอนของพ่อและกลายเป็นคนที่ขาดความเมตตา เขาเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ต่อคำสั่งของ 'ซานโช่' โดยสิ่งเดียวที่ยังพอยั้งเขาไว้ได้บ้างก็คือ 'อันจู' น้องสาวแสนดีของเขา
สามเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้
1. สาระของหนัง
- หนังตั้งอยู่บนธีมคำสอนของพ่อที่มีต่อลูกชายครับ "เราหมดสิ้นความเป็นคนเมื่อปราศจากความเมตตา" (A man is not a Human being without Mercy.) ซึ่งหนังจะนำเสนอให้เห็นตลอดทั้งเรื่องถึงความโหดร้ายที่มนุษย์มีต่อมนุษย์ด้วยกันครับ เช่น แยกแม่ลูกออกจากกัน, บังคับเด็กเป็นทาส, ทรมานทาสที่หลบหนี พูดง่าย ๆ ว่าทั้งหมดในเรื่องจะสอนเราถึง 'ความเมตตา' คือสิ่งที่ทำให้เราคงความเป็นมนุษย์เนี่ยแหละครับ
2. การเล่าเรื่องอย่างรวดเร็ว
- หลายคนอาจจะคิดว่าหนังเก่ามักจะเนิบนาบ แต่ไม่ใช่กับ Sansho the Bailiff ครับ หนังดำเนินเรื่องตั้งแต่คนพ่อถูกเนรเทศ ลูกไปเป็นทาส แม่ถูกจับเป็นโสเภณีได้อย่างรวดเร็ว จนบางครั้งแอบรู้สึกว่าหนังตัดตอนส่วนที่สามารถบิ๊วอารมณ์คนดูได้มากกว่านี้ ส่วนอารมณ์หนังจะคล้าย ๆ Ben-Hur ที่ไม่มีแอ็คชั่นครับ (ถูกจับเป็นทาสจนเมื่อได้คืนตำแหน่งแล้วกลับมาล้างแค้น)
3. ชะตากรรมครอบครัวแสนโศกเศร้า
- หากจะนึกถึงหนังดราม่าชีวิตครอบครัวรันทดสักครอบครัวหนึ่ง ยังไงก็ต้องนึกถึง Sansho the Bailiff แล้วล่ะครับ อะไรจะดวงซวยได้ขนาดนี้ พ่อเป็นคนดีก็ถูกเนรเทศ แม่กับลูกจะตามไปหาก็โดนหลอกไปขาย แถมยังขายไปคนละที่อีก แล้วยังจะมีชะตากรรมอื่น ๆ ที่ต้องไปดูกันเองครับ ผมชอบอย่างหนึ่งตรงที่มันเหมือนเป็นหนังพีเรียดสะท้อนยุคสมัยขุนนางญี่ปุ่นมีอำนาจกดขี่ชาวนาด้วยความอยุติธรรม แล้วชะตากรรมเหล่านี้มันส่งผลถึงแม้กระทั่งครอบครัวชนชั้นสูง
• ได้คะแนนโหวตใน IMDb 8.2 คะแนนจากประมาณเกือบ 8,000 โหวตครับ (คนดูค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับผลงานกำกับของโอสุและคุโรซาว่าซึ่งอยู่ในยุคเดียวกัน)
• หนังติดทำเนียบ Criterion ด้วยครับ
"A man is not a Human being without Mercy."
Director: Kenji Mizoguchi
Story: Ogai Mori, Fuji Yahiro, Yoshikata Yoda
Genre: Drama
9/10
Comments