ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2557)
- myfavfilms
- 20 ก.ย. 2557
- ยาว 1 นาที
ตุ๊กแกรักแป้งมาก (28 สิงหาคม พ.ศ. 2557)
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยตั้งคำถามว่า "นักวิจารณ์/นักรีวิวหนังยังมีความจำเป็นอยู่ไหม"
หลายคนคงมีคำตอบในใจอยู่แล้วคือ "ไม่จำเป็น" เพราะถ้าอยากดูก็ดูเลย ไม่อยากดูก็คงไม่ดูเลย ใครมาเชียร์มาอะไรก็คงไม่ดูอยู่ดี
แต่มันก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่เขามองเห็นความจำเป็นของนักวิจารณ์หนัง เช่น ตัวผมที่ตัดสินใจดูตุ๊กแกเพราะเชื่อถือว่าสิ่งที่คนทำเพจหนังด้วยกัน เพจที่ผมติดตามช่วยกันเชียร์หนังเนี่ย มันน่าจะดีอย่างที่เขาเชียร์กัน
1) แม้หลังดูจบผมจะมีความรู้สึกว่าบางส่วนของหนัง กล่าวคือ 'การเล่าความรักของตุ๊กแกตอนโต' มันไม่สามารถหลีกหนีความจำเจเดิม ๆ จนทำให้หนังดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งความบังเอิญซ้ำซากที่พบเห็นจนชินตาของคนเขียนบทมุกตัน หรือกระทั่งฉากงานแถลงข่าวในช่วงท้ายที่โคตรจะ 'ละค๊อนละคร' ผมมองว่ามันฉุดหนังให้ดิ่งลงไม่แพ้ฉากจบ 'สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก'
2) ด้วยความเคารพนะครับ ยุทธเลิศค่อนข้างโอ้อวดตัวเองสูงส่งพอสมควรทั้งที่ผลงานของเขามันไม่ได้ดีขนาดจะคุยข่มหนังคนอื่นได้เต็มปากเต็มคำ อย่างเช่น dialouge ที่คอยยัดเยียดใส่ปาก 'นายทุน' ให้ชมผลงานตัวเองอยู่ตลอด มันควรจะหมายถึงหนังที่แหวกกว่าหนังไทยมากกว่านี้ หรือมันควรจะหมายถึงการฉาย 'ปิตุภูมิ' ที่น่าจะทำให้เขาโอ้อวดตัวเองได้เต็มปากเต็มคำกว่านี้
3) ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อนำ 'ตุ๊กแกรักแป้งมาก' เทียบกับหนังไทยด้วยกันแล้ว มันก็มีบางส่วนที่ช่วยยกระดับพล็อตหนังไทย อย่างเช่นการทำให้หนังเป็นเหมือน personal film ที่เล่าเรื่องส่วนตัว "กว่าจะเป็นตุ๊กแกรักแป้งมาก" อย่างเช่น Annie Hall ที่เล่าเรื่องของวู้ดดี้ อัลเลน, Her + Lost in Translation ที่เล่าความรักของสองผู้กำกับ (เคยฟังสัมภาษณ์ยุทธเลิศตอนพูดถึงปิตุภูมิเลยมองว่าเขาบอกเล่าการทำหนังตุ๊กแกด้วยเรื่องจริง) หรือการโหยหาความหลังเบื้องหลังการฉายหนังที่เชียงคาน
4) Personal film ของยุทธเลิศถูกบอกกล่าวมาหลายครั้งว่าเขาอยากทำหนังเรื่อง 'ตุ๊กแกรักแป้งมาก' มานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีนายทุนอนุมัติ ดังนั้นเมื่อเรามองชีวิตจริงของบทหนัง 'ตุ๊กแกรักแป้งมาก' และเมื่อมองเหตุการณ์ในหนัง มันช่างสอดคล้องกันจนเชื่อได้ว่ายุทธเลิศได้ใส่ประสบการณ์ตัวเองลงไปในหนังผ่านตัวตุ๊กแก (อ้างอิงจากที่ยุทธเลิศเขียนใน Facebook ช่วงหนังฉาย https://www.facebook.com/yuthlert/posts/10152685969597363:0)
5) ส่วนการโหยหาอดีต มันอาจไม่ได้พาเราไปสัมผัสความแตกต่างของการดูหนังวัยเด็กเมื่อเทียบกับปัจจุบันผ่านตัวหนัง แต่หากเราเดินถอยหลังออกมาเพื่อมองให้กว้างขึ้น การนำเสนอภาพโรงภาพยนตร์ท้องถิ่นที่ค่อย ๆ ล้มหายตายจาก, อาชีพวาดบิลบอร์ดภาพยนตร์ที่เริ่มจะหมดความสำคัญ จนผมคงเห็นที่ถูกบอกต่อบ่อย ๆ ก็คือรถโฆษณาหนังที่ภูเก็ต, การฉายหนังด้วยม้วนฟิล์มที่ถูกแทนที่ด้วยระบบดิจิตอล, หรือกระทั่งป้ายแสดงชื่อหนังซึ่งตอนนี้ในกรุงเทพคงเหลือความดั้งเดิมแค่เพียงที่สกาล่า สิ่งเหล่านี้คงทำให้เราค่อย ๆ ทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงและเก็บมันเป็นเพียงความทรงจำในห้วงขณะหนึ่ง
6) มุกตลกหลายอย่างในหนังยังจิกกัดแวดวงหนังได้อย่างทั่วถึง ทั้งคนดู (หนังเรื่องนี้สนุกไหม พอตอบไม่สนุก ก็เอาคนอื่นมาอ้างว่าคนนู้นคนนี้บอกว่าสนุก ทั้งที่เรากำลังถามความเห็นจากเขา), นายทุน ที่อยากจะทำหนังเดิม ๆ แม่นาก พี่มาก (ซึ่งมันก็ย้อนเข้าตัวยุทธเลิศเองที่ทำความรักของตุ๊กแกตอนโตไม่ต่างจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ เลย) โดยเฉพาะนายทุนร่างอ้วนเจ้าของวลี 'แม่นากลิงโขน' ที่สร้างเสียงหัวเราะได้ทุกประโยคจริง ๆ หะหะ
7) บางอย่างของหนังผมก็อยากให้หนัง 'ขยี้' มากกว่านี้
**เริ่มสปอยล์**
อย่างเช่นปมความรู้สึกผิดของตุ๊กแกและแป้ง คนหนึ่งมีความรู้สึกผิดจากการจากลาที่ไม่ดี และอีกคนรู้สึกผิดที่ทำลายอาชีพอีกฝ่าย มันเป็นปมที่น่าขยี้ให้เข้มข้นมากกว่านี้ และมาบรรจบเป็นว่าพอสองคนนี้เข้าใจกัน จึงประสบความสำเร็จร่วมกัน
กับอีกส่วนเป็นความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี หลังจากหนังเฉลยว่าเป็นหนังซ้อนหนัง มันควรจะเล่าเรื่องผ่านมุมมองสายตาของตุ๊กแกฝ่ายเดียว มากกว่าเล่าเรื่องด้วยสายตาบุคคลที่สาม (third view) ซึ่งแทรกมาด้วยสายตาของแป้ง
**ปิดสปอยล์**
8) กล่าวถึงการแสดงต้องขออนุญาตเห็นด้วยกับหลาย ๆ คนที่ยกย่องว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของเก้า จิรายุ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งต้องขออนุญาตเห็นแย้งว่า การแสดงพื้นฐานทั่วไประดับนี้ไม่ควรหยิบมายกย่องสักเท่าไร เพราะมันเหมือนเป็นการตั้งค่าเฉลี่ยความสามารถของนักแสดงไว้ต่ำมาก
9) ที่อยากกล่าวชมคือน้องแม็ค ที่รับบทตุ๊กแกวัยเด็ก น้องเล่นฉากคุยกับยายดีมากกกกก เล่นเป็นธรรมชาติมากจนเชื่อว่าหลายคนต้องน้ำตาซึม แม้ว่าฉากที่เหลือน้องจะยังแข็งเหมือนโฆษณาอีซูสุก็เถอะ ฮ่าๆ
10) กล่าวโดยสรุปแล้ว 'ตุ๊กแกรักแป้งมาก' มันคือหนังดราม่าการทำตามความฝันในวัยเด็กของ 'ตุ๊กแก' โดยใช้ความรักที่มีต่อ 'แป้ง' เป็นแรงขับความทะเยอทะยาน และใส่อารมณ์คอเมดี้ด้วยมุกตลกที่ไม่เกี่ยวกับเส้นความรัก (ดังนั้นมันจึงไม่ใช่หนังรอมคอม)
11) สุดท้ายแล้วขอเห็นด้วยกับที่ทางค่ายพยายามโปรโมทว่า "หนังรักมันมีเยอะ แต่ที่ยังไม่เยอะคือหนังน่ารัก" เพราะที่สุดแล้วยุทธเลิศเองก็ยังทำหนังรักได้ไม่ต่างจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ และมันก็ไม่ใช่หนังน่ารักอย่างที่ค่ายพยายามโปรโมทเลย
ผู้กำกับ : ยุทธเลิศ สิปปภาค
เขียนบท: ยุทธเลิศ สิปปภาค
ประเภทหนัง: Drama, Romance, Comedy
7.5/10

Comments