top of page
ค้นหา

The Letter (1940)

  • myfavfilms
  • 21 ก.ย. 2557
  • ยาว 1 นาที

The Letter (1940)

ก่อนหน้าจะได้ชมหนังเรื่องนี้ ผมเคยดูผลงานกำกับของ William Wyler แค่สองเรื่องเองครับ คือ Ben-Hur และ Roman Holiday ส่วนผลงานของ Bette Davis

นักแสดงนำหญิงเรื่องนี้ก็ผ่านตามาแค่ What Ever Happened to Baby Jane? (เรื่องนี้แสดงเทพจริง) กับ All About Eve ซึ่งก็เข้าชิงออสการ์เช่นกันครับ

แค่ฉากเปิดเรื่องก็เด็ดโดนใจแล้วครับ เมื่อเทียบกับยุคสมัยแล้วถือว่าเป็นฉากเปิดเรื่องที่สร้างความเร้าใจเป็นอย่างมาก เพราะมาถึงก็เริ่มด้วยฉาก ‘เลสลี่ย์‘ (Bette Davis) ถือปืนลูกโม่ไล่ยิงชายคนหนึ่งอย่างเลือดเย็น แล้วยังยิงซ้ำแม้ว่าชายคนนั้นจะลงไปนอนคว่ำกับพื้น พวกคนงานท้องถิ่นก็ตื่นขึ้นมาเป็นพยานว่าเจ้านายของพวกเขาเป็นฆาตกร

หลังจากนั้นเธอก็ให้คนไปตามสามีและทนายความประจำตัวมาครับ เธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นการป้องกันตัว ผู้ตายก็คือ ‘แฮมมอนด์’ ได้บุกเข้ามาพยายามข่มขืนเธอ แต่เธอฉวยโอกาสที่เขาสะดุดขั้นบันได รีบพุ่งไปคว้าปืนในลิ้นชักยิงใส่ผู้ตายด้วยความหวาดกลัว ซึ่งขัดแย้งกับภาพที่คนดูเห็นตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง

จากนั้นไม่นานเรื่องก็มาถึงจุดที่พลิกผัน เมื่อ ‘อ่อง’ ผู้ช่วยทนายของ ‘ฮาเวิร์ด’ ได้ยื่นสำเนาจดหมายที่อ้างว่าเลสลี่ย์เป็นคนเขียนถึงผู้ตาย ซึ่งข้อความในนั้นคือการที่เธอส่งจดหมายไปเชิญชวนผู้ตายให้มาหาที่บ้านในคืนที่สามีของเธอไม่อยู่ หนังมาถึงจุดที่เป็นฟิล์มนัวร์เมื่อตัวละครอย่าง ‘ฮาเวิร์ด’ ทนายที่ได้รับการนับถือต้องถูกทดสอบศีลธรรมว่าเขาจะยอมติดสินบนพยานเพื่อช่วยเหลือภรรยาของเพื่อนด้วยการซื้อต้นฉบับจดหมายนี้มูลค่าถึงหนึ่งหมื่นเหรียญ ซึ่งจะทำให้ ‘โรเบิร์ต’ สามีของเลสลี่ย์หมดตัวเลยทีเดียว

The Letter ดัดแปลงมาจากละครเวทีปี 1927 ครับ และเคยนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 1929 ก่อนที่ปี 1940 จะถูกนำมา remake เป็นเวอชั่นที่ผมเพิ่งได้ชมไป ซึ่งเวอชั่น 1940 เนี่ยมีการดัดแปลงเนื้อหาฉากจบด้วยครับ โดยตามต้นฉบับเนี่ยจะต้องตัดจบตอน ‘โรเบิร์ต’ พรรณนาถึงการจะพาภรรยาย้ายถิ่นฐานไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เกาะสุมาตรา แต่ว่าโดนทนายประจำตัวเบรกด้วยการแจ้งว่าเขาได้นำเงินทั้งหมดไปซื้อจดหมายฉบับนั้นเพื่อให้ ‘เลสลี่ย์’ พ้นความผิด ซึ่งก็จบด้วยฉาก ‘โรเบิร์ต’ อ่านจดหมายแล้วเดินหนีออกไป ส่วนทนายความก็ปลอบเลสลี่ย์ว่าเขาต้องให้อภัยคนรักอย่างแน่นอน

ส่วนในฉบับหนังปี 1929 นั้นได้ยืดออกมาถึงงานเลี้ยงแล้วต้องตัดจบที่ฉาก ‘เลสลี่ย์’ พูดประโยคคลาสสิกว่า "With all my heart, I still love the man I killed!” ซึ่งเป็นการบอกถึงความทรมานของเธอหลังจากที่เธอฆ่าคนที่เธอรักด้วยความหึงหวง แต่ผู้กำกับเวอชั่น 1940 ไม่สามารถตัดจบที่ฉากนี้ได้ครับ เพราะจะผิดกฎเรื่องเวลาฉายหนังสั้นเกินไป จึงยืดออกไปอีกประมาณ 5 นาที (จาก 90 นาทีเป็น 95 นาที) ซึ่งผู้กำกับบอกว่าเขาตั้งใจจะเพิ่มส่วนนี้อยู่แล้วด้วยการใส่ความคิดเห็นส่วนตัวลงไปว่ามันควรจะจบอย่างไร ผลที่ได้คือคนดูหลายคนก็ชอบฉากจบแบบที่เพิ่มเข้าไป ส่วนตัวผมเองชอบตัดจบแบบเวอชั่น 1929 มากกว่าครับ

หนังได้เข้าชิงออสการ์ถึง 7 รางวัลครับ ไล่ตั้งแต่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Bette Davis), นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม, ตัดต่อยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบยอดเยี่ยมครับ

การดู The Letter เป็นส่วนหนึ่งของการไล่ดูหนังยุค 40s (1940 – 1949) ให้ครบ 50 เรื่องภายในปีนี้ครับ ตอนนี้ดูไป 35 เรื่องแล้ว ที่ชอบมากที่สุดเรท 10/10 มีทั้งหมด 7 เรื่องได้แก่ Casablanca (1942), It's a Wonderful Life (1946), The Treasure of the Sierra Madre (1948), Rebecca (1940), Double Indemnity (1944), Shadow of a Doubt (1943) และ Letter from an Unknown Woman (1948) ครับ

โดยส่วนตัวตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองจะชอบหนังยุค 40s ครับ หนังเด็ด ๆ ล้ำกว่ายุคอื่นเยอะมาก เช่น Laura (1944), Citizen Kane (1941), White Heat, Red River, The Lost Weekend, Night Train to Munich, The Third Man, His Girl Friday ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในยุคนี้หมดเลย เป็นยุคที่ผมว่ามีหนังเจ๋ง ๆ เยอะมาก หลายเรื่องก็เป็น hidden gem ที่คนไม่รู้จัก (แต่ Criterion ไปขุดมา ฮ่าๆๆ)

ใครชอบหนังคลาสสิก ติดตามหนังโปรดตลอดทั้งปีนี้ได้เลยนะครับ

Director: William Wyler

Play: W. Somerset Maugham

Screenplay: Howard Koch

Genre: Crime, Drama, Film-noir, Mystery

8/10

 
 
 

Comments


Recent Posts
Search By Tags
follow us:
  • Facebook Classic
  • Twitter Classic
  • images.jpg
  • c-youtube
bottom of page