top of page
ค้นหา

Red Dragon (2002)

  • myfavfilms
  • 27 ก.ย. 2557
  • ยาว 1 นาที

Red Dragon (2002)

เชื่อว่าหลายคนที่เคยดู The Silence of the Lambs (1991) คงจะต้องหลงเสน่ห์ของ ‘ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์’ กันบ้างไม่มากก็น้อย เบื้องหน้าเขาคือจิตแพทย์ที่มีความสามารถสูง มีคนเคารพมากมาย แต่ฉากหลังกลับเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตที่ชอบกินเนื้อมนุษย์ อย่างไรก็ตามหนังกลับไม่ได้พาเราไปชมความโรคจิตโดยตรงของดร.ฮันนิบาล แต่เลือกที่จะใช้ตัวละครนี้ให้เป็น anti-hero ที่รับบทบาทเป็นที่ปรึกษาสำหรับเจ้าหน้าที่ FBI ในการไขคดี

ถ้าว่ากันตามลำดับเวลาตามอายุของดร.ฮันนิบาล เราต้องบอกว่า Red Dragon เล่าเรื่องก่อนจะเป็น The Silence of the Lambs เพียงแต่ว่าในฉบับหนังนั้น Red Dragon สร้างทีหลังห่างกันถึง 11 ปี

‘วิล แกรห์ม’ (Edward Norton) เจ้าหน้าที่ FBI ผู้จับกุม ‘ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์’ (Anthony Hopkins) ถูกเรียกตัวกลับมาสืบคดีฆาตกรต่อเนื่องคนล่าสุดที่นักข่าวตั้งฉายาว่า ‘เจ้าเขี้ยวสยอง’ (Ralph Fiennes) การสืบคดีเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะเขาไม่พบความเกี่ยวโยงระหว่างเหยื่อสองครอบครัว ทางออกของเขาคือต้องพึ่งคำแนะนำจากดร.ฮันนิบาล อดีตคู่ปรับที่ยังอาฆาตแค้นเขาอยู่

ความน่าสนใจของ Red Dragon คือการค้นหาฆาตกรต่อเนื่องด้วยวิธีการวิเคราะห์จิตวิทยา วิเคราะห์แรงจูงใจ ค้นหาปมที่ทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ผ่านการสืบสวนหาหลักฐานด้วยนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมันเป็นเสน่ห์ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากภาค The Silence of the Lambs (หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เพราะนิยาย Red Dragon หนังสือเล่มแรกของตัวละครดร.ฮันนิบาลประสบความสำเร็จ แถมยังมีแฟน ๆ ชื่นชอบฆาตกรโรคจิตคนนี้ เขาจึงแต่ง The Silence of the Lambs ให้มีลักษณะเดียวกับนิยายเล่มแรก)

แนวทางการเล่าเรื่องของ Red Dragon คือการเปิดเผยตัวฆาตกรต่อเนื่อง โดยให้ตัวเอกก็คือ ‘แกรห์ม’ ค้นหาตัวฆาตกรต่อเนื่องด้วยนิติวิทยาศาสตร์และการจินตนาการถึงฉากฆาตกรรมซึ่งเขาต้องได้รับคำแนะนำจากดร.ฮันนิบาลซึ่งเป็นจิตแพทย์ที่สามารถมองฉากฆาตกรรมได้ทะลุปรุโปร่ง สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นหนัง suspense ก็คือการหาความเชื่อมโยงระหว่างเหยื่อและเก็บหลักฐานเพื่อมัดตัวฆาตกรต่อเนื่องรายนี้

ตัวละครหลักใน Red Dragon ยังเต็มไปด้วยปมทางจิตวิทยาที่น่าสนใจ เริ่มจาก ‘วิล แกรห์ม’ เจ้าหน้าที่ FBI ที่ถูกดร.ฮันนิบาลวิเคราะห์ว่าเขาเองก็มีร่องรอยของความโรคจิตเพราะสามารถจินตนาการถึงฉากฆาตกรรมโหดได้แม้เพียงแค่เห็นสภาพเหยื่อและที่เกิดเหตุ, ‘เจ้าเขี้ยวสยอง’ ฆาตกรต่อเนื่องเองก็มีปมถูกทารุณกรรมตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มกลายเป็นฆาตกรหลังถูกอิทธิพลของรูปวาดมังกรแดงเข้าครอบงำจิตใจที่อ่อนแอ และหนังยังทำให้เรารู้สึกเห็นใจฆาตกรต่อเนื่องรายนี้เนื่องจากเขาพยายามที่จะสลัดการครอบงำออกไปด้วยความรักที่มีต่อ ‘รีบ้า’ (Emily Watson) หญิงสาวตาบอดที่ทำงานด้วยกัน

ด้วยความที่ Red Dragon เป็นหนังที่เล่นเรื่องจิตวิทยาจึงต้องอาศัยการแสดงเข้าช่วยมากพอสมควร ต้องขอบคุณการแสดงชั้นเยี่ยมของทั้ง ‘เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน’ ในบทเจ้าหน้าที่ FBI ที่แสดงออกถึงความกลัวแต่เขาไม่ใช่คนขี้ขลาด, ‘ราล์ฟ ไฟนส์’ ในบทฆาตกรต่อเนื่องขี้อาย ที่ต้องเล่นแสดงทั้งความอ่อนแอและโหดเหี้ยม, ‘เอมิลี่ วัตสัน’ บทเล็ก ๆ ในฐานะหญิงสาวที่ฆาตกรต่อเนื่องหลงรัก เธอกลายร่างตัวเองเป็นหญิงสาวตาบอดมองโลกแง่บวกได้อย่างสมบูรณ์แบบ, ‘ฟิลิปส์ ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน’ กลายมาเป็นนักข่าวช่างสอดรู้สอดเห็น ซึ่งเขาก็แสดงได้ตามมาตรฐานอยู่แล้ว และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ‘แอนโทนี่ ฮอปกินส์’ ที่ยังคงความเป็นฮันนิบาลได้อย่างยอดเยี่ยม แม้เราจะรู้สึกว่าเขายังฉลาดโหดเหี้ยมไม่เท่าตอนเล่น The Silence of the Lambs

ขอแนะนำว่าแฟนหนังสืบสวนควรหามาชมครับ

Director: Brett Ratner

Novel: Thomas Harris

Screenplay: Ted Tally

Genre: Crime, Thriller, Suspense

8/10

 
 
 

コメント


Recent Posts
Search By Tags
follow us:
  • Facebook Classic
  • Twitter Classic
  • images.jpg
  • c-youtube
bottom of page