Gone Girl (2014)
- หนังโปรดของข้าพเจ้า
- 21 ต.ค. 2557
- ยาว 1 นาที

Gone Girl (2014)
**ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ**
ถ้าถามผมว่า Gone Girl คือเรื่องเกี่ยวกับอะไร ผมจะชี้ชัดว่ามันเป็นเรื่องของสถาบันครอบครัวร้าวฉานจนนำไปสู่คดีปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อสาว
เมื่อ ‘เอมี่’ (Rosamund Pike) หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในวันครบรอบการแต่งงานปีที่ 5 ระหว่างเธอกับ ‘นิค’ (Ben Affleck) คดีกลายเป็นที่สนใจของผู้คนในเมืองและสื่อมวลชนที่มาเฝ้าทำข่าว ท่ามกลางพฤติกรรมต้องสงสัยของสามี คำบอกเล่าจากเพื่อนบ้าน ตลอดจนคำโกหกของเขาทำให้ผู้คนตั้งคำถามว่า “เขาฆ่าภรรยาใช่หรือไม่”

ชำแหละ Gone Girl แบบระมัดระวังไม่ให้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ
องค์ที่ 1: หญิงสาวหายตัว และไดอารี่บันทึกความสัมพันธ์
หนังเปิดเรื่องได้สมบูรณ์แบบมาก ๆ สำหรับหนังประเภท Suspense การเล่าเรื่องจากสายตาของสามีระหว่างที่ภรรยาหายตัวอย่างลึกลับตัดสลับกับไดอารี่จากสายตาของหญิงสาวที่บันทึกรักแรกพบจบด้วยการแต่งงาน เป็นช่วงที่หนังตรึงอารมณ์คนดูอย่างผมอยู่หมัด ช่วงบรรจงปล่อยความน่าสงสัยในตัว ‘นิค’ ออกมาทีละอย่างมันหยอดเข้ามาได้ถูกจังหวะ แล้วฟินเชอร์ยังบรรจงหยอดเข้ามาทีละนิดจนถึงการเข้าสู่องค์สองที่คลี่คลายเฉลยเรื่องทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น
ความยอดเยี่ยมขององค์ที่ 1 ไม่ได้อยู่แค่โทน suspense สืบสวนไขปริศนา แต่มันยังยอดเยี่ยมในการตีแผ่ปัญหาชีวิตสมรสที่นำไปสู่การหย่าร้างซึ่งเชื่อว่าเราคงพบเห็นได้มากมายในปัจจุบัน หนังบอกเล่าปัญหาของชีวิตคู่ไล่ตั้งแต่ การเงินขัดสน, การงานไม่มั่นคง, การย้ายถิ่นฐาน, เรื่องบนเตียง, การมีบุตร ตลอดจนความไม่ซื่อสัตย์ ทั้งหมดนี้หนังนำเสนอภายใต้กรอบอันจำกัดขององค์ที่ 1 ได้อย่างยอดเยี่ยม มันคือเรื่องของสถาบันครอบครัวที่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ที่ถูกเก็บไว้เบื้องหลังจนมันถูกเผยแพร่ออกเบื้องหน้าภายหลังการหายตัวไปของหญิงสาว

องค์ที่ 2: อิทธิพลสื่อ และการคายความลับ
หนังเปิดเผยความลับของหนังในทันทีว่าอะไรเป็นอะไร และทำให้คนดูต้องปรับตัวจากโทนหนังลึกลับเข้าสู่โหมดจิตวิทยาด้วยการเริ่มต้นวิเคราะห์ความเป็นไปของความขัดแย้งในครอบครัว
และในบางห้วงขณะ ผมมีความรู้สึกว่า Gone Girl กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้หนังสืบสวนรุ่นต่อจากนี้ว่ามันจะกลายเป็น modern suspense จากเดิมที่การต่อสู้คดีจะต้องวัดกันที่การพิชิตใจลูกขุน จะกลายเป็นต้องมาเดิมพันที่การพิชิตใจประชาชนที่ติดตามผ่านอิทธิพลสื่อที่คอยสร้างกระแสหาเรทติ้งให้ตัวเอง ดังนั้นบทสรุปจึงอยู่ที่โจทก์และจำเลยจะสามารถตักตวงผลประโยชน์ด้วยการสร้างภาพลักษณ์เรียกคะแนนใจได้มากเพียงใด

องค์ที่ 3: ทางลงที่น่าผิดหวัง
คงบอกได้เพียงว่าความผิดหวังของผมมันเกิดจากการที่หนังไม่สามารถทำให้คนดูอย่างผมเชื่อไปกับแรงจูงใจทั้งหมดของเรื่อง อย่างที่บอกว่าฟินเชอร์เกริ่นชงองค์ที่ 1 ได้สมบูรณ์แบบมาก ๆ และตบด้วยองค์ที่ 2 ที่ปอกเปลือกคลี่คลายสถานการณ์ทั้งหมด แต่พอเข้าสู่องค์สุดท้ายกลับทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่หนังพยายามขยี้ต่อจากองค์ก่อนหน้า มันไปสูงเกินกว่าที่คนดูอย่างผมจะเชื่อร่วมไปกับภาพที่หนังนำเสนอ และเหตุผลตรงนี้จึงทำให้ผมหักคะแนนความยอดเยี่ยมของหนังลงมา
ในภาพรวมแล้ว ผมขออวยว่า Gone Girl เป็นหนังสืบสวนสไตล์ฟิล์มนัวร์สีเทายุคใหม่ที่น่าสนใจมาก ๆ และบทบาทอิทธิพลของสื่ออาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการทำหนังสืบสวนยุคต่อไปก็เป็นได้
ถ้ามองในแง่ความเป็นหนังสืบสวน ผมยังชอบ The Girl with the Dragon Tattoo กับ Se7en มากกว่า และถ้าพูดถึงบรรยากาศก็คงต้องบอกว่า Zodiac มันชวนหวาดระแวงมากกว่า อย่างไรก็ตาม Gone Girl มันก็มีดีในตัวที่ผมอยากชวนให้ไปสัมผัสกันครับ
Director: David Fincher
novel: Gillian Flynn
screenplay: Gillian Flynn
Genre: Drama, Mystery, Thriller, Suspense
8/10
หนังโปรดของข้าพเ
Comments