ดูหนังย้อนดูตัว: คิดก่อนแชร์ เพราะเมื่อเราแพร่ข่าวสารไปแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย

จากข่าวการวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ ด้วยเทคโนโลยีการกระจายข่าวสารที่รวดเร็วทำให้เราได้เห็นพลังทั้งด้านบวกและด้านลบของ social media ได้อย่างชัดเจนมาก

ในยุคหนึ่งผู้คนสามารถเข้าถึงข่าวสารได้อย่างรวดเร็วผ่านทางโทรทัศน์ และเฝ้ารออ่านรายงานข่าวอย่างละเอียดผ่านหนังสือพิมพ์ในตอนเช้า จนเมื่ออินเตอร์เน็ตเริ่มมีบทบาทก็เป็นยุคของการกระจายข่าวสารผ่านตามเว็บบอร์ดและโปรแกรมแชทต่าง ๆ โดยยังจำกัดแค่บนคอมพิวเตอร์ จนเมื่อเทคโนโลยีพัฒนามาถึงจุดที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน ไม่เว้นแม้กระทั่งคนรุ่นพ่อแม่ของเราก็สามารถเข้าถึงข่าวสารที่รวดเร็วได้เช่นกันผ่านการเล่น social network ต่าง ๆ มันจึงเป็นยุคที่เราจะได้เห็นการกระจายข้อมูลไปสู่วงกว้างในเวลาอันรวดเร็ว

คลิปจากกล้องติดหน้ารถของคนธรรมดาคนหนึ่งในเหตุการณ์ มียอดวิวมากกว่า 1 ล้านครั้งในเวลาเพียง 5 ชั่วโมง

https://www.facebook.com/pimornrat/videos/10206685306205549/

ภาพที่เกิดเหตุถูกแชร์ต่อกระจายไปทั้ง Line, Twitter, Facebook ในระยะเวลาอันสั้น ในบางครั้งบางคนอาจจะไม่ได้ฉุกคิดคำนึงถึงความเหมาะสมในการแชร์ภาพชวนสลดใจด้วยซ้ำ เราอาจจะหลงติดในความไวของ social media จนแก่งแย่งจะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้รู้ก่อนและไวสุด

รวมถึงข้อมูลข่าวสารปลุกแต่งแหล่งที่มาและข่าวลือต่าง ๆ ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ล้วนถูกกระจายต่อโดยปราศจากการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งทุก ๆ ข้อมูลเมื่อมีการแพร่กระจายออกไปมันก็ยากที่เราจะตามไปแก้ไขข่าวลือที่ถูกแพร่กระจายไปผิด ๆ ทั้งหมดก่อนหน้านี้

ดังเช่นบทเทศนาจากภาพยนตร์เรื่อง Doubt ที่มีใจความสำคัญว่า "เปรียบการปล่อยข่าวลือเหมือนขนนก เมื่อเราเอามีดกรีดหมอนจนขนนกปลิวไปทั่ว ก็ยากที่เราจะตามเก็บขนนกกลับมาเหมือนเดิม เช่นเดียวกับการปล่อยข่าวลือ เมื่อเรากระจายไปแล้วเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าข่าวลือนั้นจะไปต่อไกลขนาดไหน"

จงตระหนักไว้ว่าทุกการแชร์กระจายข้อมูลของเรามันยากต่อการตามเก็บกวาดหากเกิดความผิดพลาด จงไตร่ตรองให้รอบคอบ ตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ชัด เราไม่จำเป็นต้องไวที่สุดในโลก social network แต่เราควรจะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลถูกต้องที่สุดในโลกที่การกระจายข้อมูลมันไปได้ไกลเกินกว่าจะคาดคิด

#article #socialnetwork